กรณีศึกษาการใช้ Chromebook (โครมบุ๊ค)  ในประเทศต่างๆ รวมถึงการปฏิรูปครั้งใหญ่ที่ญี่ปุ่น เพื่อการเรียนรู้เฉพาะบุคคล และ ส่งเสริมการเรียนรู้แบบโค้ดดิ้ง 

เมื่อไม่นานมานี้ โรงเรียนและสถาบันการศึกษาทั่วโลกได้เกิดการปฏิรูปครั้งใหญ่ ประเทศญี่ปุ่นเป็นกรณีตัวอย่าง ดังต่อไปนี้ 

ภาครัฐของประเทศญี่ปุ่นมีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะปรับระบบการศึกษาให้ทันสมัยเพื่อเตรียมความพร้อมให้เด็กนักเรียนสำหรับการทำงานในอนาคต รวมถึงส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมการเรียนโค้ดดิ้ง ซึ่ง Chromebook ก็ได้รับเลือกให้เป็นอุปกรณ์ยอดนิยมที่สุดในเขตการศึกษาต่างๆ โดยมีเป้าหมาย : แปลงสภาพแวดล้อมระบบการศึกษาให้เป็นดิจิทัล พัฒนาระบบคลาวด์แบบ 1:1 ให้กับนักเรียน รวมถึงมีระบบบริหารจัดการอุปกรณ์ (Device Management) ที่เหมาะสม 

ศาสตราจารย์ ทัสซึยะ โฮรุตะ มหาวิทยาลัยโทโฮกุ  ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีการศึกษา กล่าวว่า “หากโรงเรียนต่างๆ ยึดติดกับการมีระบบไอซีทีเป็นของตนเอง ทางโรงเรียนจำเป็นต้องติดตั้งแอปพลิเคชันทั้งหมด ซึ่งมีค่าใช้จ่ายรวมสูง และจะทำให้โรงเรียนใช้งานเทคโนโลยีไอซีทีได้ช้าลง เราต้องใช้คลาวด์ในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานของเครือข่ายเพื่อลดต้นทุนและเพิ่มประโยชน์ของอีเลิร์นนิง คลาวด์ช่วยให้เราวิเคราะห์บิ๊กดาต้าของการเรียนรู้เพื่อปรับปรุงโรงเรียนได้ นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายของอุปกรณ์ส่วนบุคคลจะน้อยลงมาก เนื่องจากพวกเขาไม่ต้องบันทึกทุกอย่างลงในพีซี ” (พฤษภาคม 2562) อ้างอิงจาก https://www.kknews.co.jp/post_ict/20190513_2a 

จาก MM Research Institute แสดงให้เห็นว่า Chromebooks เหนือกว่าเครื่องมืออื่นๆในการเรียนรู้ร่วมกัน มีความปลอดภัย และมีต้นทุนที่เหมาะสม นอกจากนั้น มีรายงานว่ามีการจัดอันดับให้ระบบปฏิบัติการ Chrome (Chrome OS) เหนือกว่าเครื่องมืออื่นๆในประเด็นหลักๆ เช่น การเรียนรู้ร่วมกัน มีความปลอดภัย และมีต้นทุนที่เหมาะสม เมื่อเปรียบเทียบกันกับเครื่องอุปกรณ์อื่นๆ ซึ่งจากรายงาน Chromebook ดีกว่าใน 14  หัวข้อ จากทั้งหมด 21 หัวข้อ โดย 14 หัวข้อได้แก่ 

  1. การทำงานร่วมกัน / เครื่องมือสื่อสาร (Collaboration / communication tools)
  2. การกรองบนระบบคลาวด์ (Cloud filtering)
  3. ความปลอดภัยของเฟิร์มแวร์ (Firmware security)
  4. อัพเดตระบบความปลอดภัยสม่ำเสมอ (Security updates)
  5. การอบรมครูและผู้ดูแลระบบ (Teacher and administrator training)
  6. การป้องกันข้อมูลสูญหาย (Data loss prevention)
  7. การจัดการข้อมูลบัญชีผู้ใช้งาน (Account management)
  8. การจัดการอุปกรณ์ (Device management)
  9. การตั้งค่าใช้งานอุปกรณ์ (Device set-up)
  10. การแก้ไขปัญหาอุปกรณ์ (Device troubleshooting)
  11. การจัดการ และการติดตั้ง แอปพลิเคชัน (Application management, distribution)
  12. การตรวจสอบการใช้งาน (Usage monitoring)
  13. เป็นอุปกรณ์ไอทีส่วนตัวราคาต่ำ ที่มีแนวโน้มนำมาใช้งาน (Potential for low-cost BYOD)
  14. ต้นทุนการจัดการต่ำ (Low management cost) 

แหล่งอ้างอิง https://www.m2ri.jp/release/detail.html?id=462

——————————–

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความท้าทายของการศึกษาในยุคปัจจุบัน และ  Chromebook เป็นส่วนหนึ่งของการตอบโจทย์ของห้องเรียนทั่วโลก 

โดยมีความท้าทายของโรงเรียนโดยทั่วไปในยุคปัจจุบัน 

  • รูปแบบการเรียนรู้จากระยะไกลและแบบผสมผสาน (hybrid learning) การจัดหาและปรับใช้อุปกรณ์ใหม่เป็นจำนวนมากส่งผลให้ต้นทุนสูง และ เป็นกระบวนการที่ใช้เวลานาน
  • ครูมีเวลาไม่มากและทรัพยากรน้อยลง นักการศึกษาต้องเผชิญกับแรงกกดดันสูงกว่าที่เคย เนื่องจากประสบปัญหาในการจัดการเรื่องต่อไปนี้ ขนาดของชั้นเรียนที่ใหญ่ขึ้น  ภาระงานที่เพิ่มขึ้น การขาดแคลนบุคลากร
  • แพลตฟอร์มและตำแหน่งการใช้งานที่หลากหลายทำให้เกิดพอร์ตโฟลิโอเทคโนโลยี ระบบไอทีที่ไม่ปะติดปะต่อ
  • กลุ่มอุปกรณ์ที่ไม่มีการจัดการ – ผู้ดูแลระบบมักไม่มีสิทธิ์ควบคุมดูแลการใช้งานอุปกรณ์ ทำให้เป็นภาระ และเสียเวลาในการบริหารจัดการ และ การเข้าไม่ถึงข้อมูลสำหรับผู้บริหาร 
  • การละเมิดด้านความปลอดภัย การเรียนรู้จากระยะไกล และ การแบบผสมผสาน ทำให้มีโอกาสที่จะเกิดการละเมิดความปลอดภัยในโลกไซเบอร์มากขึ้นการกลั่นแกล้งในโลกออนไลน์ โรงเรียนจำเป็นต้องรับรองความปลอดภัยของข้อมูลนักเรียนที่มีความละเอียดอ่อนสูง ผู้ปกครองพึ่งพาโรงเรียนในการให้ความรู้และแจ้งข้อมูลเรื่องความปลอดภัยทางออนไลน์แก่พวกเขา 

สถิติต่างๆ :  Chromebook ช่วยตอบโจทย์การเรียนรู้ในห้องเรียนทั่วโลก 

  • จำนวนนักเรียนและนักการศึกษาทั่วโลกที่เลือกใช้ Chromebook เพื่อสร้าง ทำงานร่วมกัน และสื่อสารกัน กว่า 50 ล้านคน
  • Chromebook ติดอันดับอุปกรณ์ยอดนิยมสำหรับโรงเรียนอนุบาลถึงมัธยมศึกษาตอนปลาย (K-12) ในปี 2021 (ปี พ.ศ. 2564) 
  • จากรายงานของ IDC โดยมีต้นทุนการเป็นเจ้าของ Chromebook ลดลง 57% ในระยะเวลา 3 ปี โดยค่าใช้จ่ายเบื้องต้นลดลง ช่วยให้คุณสามารถนำงบประมาณไปใช้ในส่วนอื่นได้ และ ขยายโอกาสการเข้าถึงอุปกรณ์ให้กับนักเรียนมากขึ้น 
  • Chromebook ใช้ ChromeOS ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการที่ทำงานบนระบบคลาวด์เป็นหลักและจะป้องกันแรนซัมแวร์โดยค่าเริ่มต้น จึงไม่เคยมีรายงานว่าอุปกรณ์ ChromeOS ของธุรกิจ โรงเรียน หรือผู้บริโภครายใดถูกโจมตีจากแรนซัมแวร์เลย 

Chromebook

  • โน้ตบุ๊คที่แบ่งกันใช้งานได้ ออกแบบมาเพื่อระบบการเรียนรู้ ในห้องเรียน
  • อยู่บน ChromeOS ซึ่งคือระบบปฏิบัติการ Chrome ที่ออกแบบโดย Google 
  • ทำงานบนระบบคลาวด์
  • ใช้งานงาน และ เสถียร  และพร้อมสำหรับการเรียนรู้ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานทั้งในและนอกห้องเรียน
  • เปิดเครื่องได้รวดเร็ว ชาร์จไว และใช้แบตเตอรี่ได้ยาวนาน เพราะใช้พลังงานของเครื่องน้อย
  • จัดการได้หลายเครื่องพร้อมกัน ประหยัดเวลา และทรัพยากรบุคคล
  • อัปเดตความปลอดภัยอัตโนมัติ ระบบมีการอัปเดตที่เบื้องหลังเป็นประจำ พร้อมด้วยฟีเจอร์ต่างๆ เช่น การเข้ารหัสข้อมูลแบบ 128 บิต การเปิดเครื่องที่ได้รับการยืนยัน และการใช้แซนด์บ็อกซ์ จะช่วยปกป้องสถานศึกษาจากภัยคุกคามด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่มีการพัฒนาอยู่ตลอด ซึ่งใช้งานได้ทันทีโดยไม่ต้องรีสตาร์ทระบบ 
  • ระบบความปลอดภัยแบบ Build-in ใช้งานได้อย่างปลอดภัยทันทีเมื่อแกะกล่อง ไม่ต้องติดตั้งซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัส 
  • ทำให้สภาพแวดล้อมในการเรียนการสอนยืดหยุ่น จัดการง่าย และคุ้มค่า
    •  เรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วด้วยความสามารถในการเปิดเครื่องและการลงชื่อเข้าใช้อย่างว่องไวและปลอดภัย 
  • การตั้งค่าที่เชื่อมโยงกับบัญชีผู้ใช้และนำไปใช้บนอุปกรณ์อื่นๆ ได้
  • ระบบจะบันทึกเอกสารโดยอัตโนมัติและจัดเก็บไว้อย่างปลอดภัยบนไดรฟ์
  • เปิดเครื่องได้รวดเร็วทันใจ ชาร์จไว และใช้แบตเตอรี่ได้ยาวนาน เพราะใช้พลังงานของเครื่องน้อย แต่ทรงพลัง บูตเครื่องได้ภายในเวลา 10 วินาที และแบตเตอรี่ใช้งานได้ตลอดทั้งวัน

รูปแบบที่หลากหลายสำหรับผู้เรียน 

  • แล็บท็อปที่ทนทาน โดยมีรุ่นขนาดเล็กที่ออกแบบมาสำหรับนักเรียนโดยเฉพาะ 
  • มีให้เลือกหลายรุ่น หลายแบรนด์ หลากฟีเจอร์ 
  • มีให้เลือกทั้งแบบเดสก์ท็อป แล็ปท็อป หรือแท็บเล็ตในราคาที่หลากหลาย
  • กล้องหน้าหรือกล้องหลังในตัว หน้าจอสัมผัส หรือสไตลัส และการลงชื่อเข้าใช้ด้วยลายนิ้วมือ
  • ใช้งานง่าย เสถียร และพร้อมสำหรับการเรียนรู้ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานทั้งในและนอกห้องเรียน
  • การทำงานร่วมกัน – ทำงานร่วมกันโดยใช้เครื่องมือของ Google Workspace for Education อย่าง Google Meet หรือเอกสาร พร้อมแชร์ไอเดียทั้งในและนอกห้องเรียนได้ด้วยเครื่องมือสำหรับการแคสต์และวิดีโอ
  • ทำงานในระบบคลาวด์ – ทำการเรียนการสอนในระบบคลาวด์ ซึ่งจะช่วยให้ชุมชนโรงเรียนของคุณได้พัฒนาทักษะการใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลเพื่ออนาคตที่เสมอภาคยิ่งขึ้น 
  • ประสิทธิภาพการทำงาน – สนับสนุนการทำงานหลายอย่างพร้อมกันด้วยความสามารถในการสลับไปมาระหว่างเดสก์ท็อปเสมือน และยังสามารถใช้งานแอปต่างๆ ได้ในเวลาเดียวกันอีกด้วย
  • เชื่อมต่ออยู่เสมอ – อายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่สูงกว่าค่าเฉลี่ย, การเชื่อมต่อผ่าน LTE ในบางรุ่น และโหมดออฟไลน์ช่วยให้การศึกษาดำเนินไปอย่างต่อเนื่องได้ในทุกสถานการณ์
  • รองรับการช่วยเหลือพิเศษ – ส่งเสริมรูปแบบการเรียนรู้ของนักเรียนแต่ละคนด้วยการตั้งค่าการช่วยเหลือพิเศษ 
  • เพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมและระดับการเข้าถึง – ใช้ฟีเจอร์รักษาความปลอดภัยขั้นสูง เข้าถึงข้อมูลและอุปกรณ์ต่างๆ ได้มากขึ้น 

ความสามารถอื่น เพื่อควบคุมนโยบายของอุปกรณ์ผ่านเว็บ เช่น 

  • การตั้งค่าหน้าแรกของเว็บ
  • การตั้งค่าวอลเปเปอร์ 
  • การติดตั้งแอป หรือ ส่วนขยายของแอปให้กับนักเรียนจากระยะไกล ทั้งเว็บแอป หรือ แอปบน Playstore 
  • โหมดใช้งานเฉพาะบุคลากร หรือ นักเรียนเท่านั้น 
  • โหมดการปิด เปิดเครื่องเป็นเวลา 
  • โหมดการบล็อกเว็บไซต์ไม่เหมาะสม 
  • โหมด Google Safe Browsing ใน Chrome จะช่วยป้องกันผู้ใช้จากเว็บไซต์ที่อาจมีเนื้อหามัลแวร์หรือฟิชชิง  อัตโนมัติ 
  • โหมดค้นหาปลอดภัย โดยจะเปิดใช้งานฟีเจอร์การค้นหาที่ปลอดภัยโดย Google สำหรับคำค้นหาในเว็บ และโหมดจำกัดสำหรับ YouTube เพื่อให้แน่ใจว่านักเรียนจะเข้าถึงเนื้อหาที่เหมาะสมและปลอดภัย เท่านั้น 
  • การตั้งค่าบุ๊กมาร์กที่จัดการได้ เพื่อเปิดใช้รายการบุ๊กมาร์กเป็นกลุ่ม เช่น นักเรียนสามารถเข้าถึงเว็บที่ใส่ในบุ๊กมาร์กที่ได้รับการจัดกลุ่มไว้ 
  • การตั้งค่าการช่วยเหลือพิเศษ (Accessibility) 
  • การตั้งค่าเพื่อ ระบุผู้ที่มีสิทธิ์ลงชื่อเข้าใช้มั่นใจได้ว่าจะใช้ Chromebook ของโรงเรียนตรงตามวัตถุประสงค์ด้านการศึกษาเท่านั้น โดยปิด หรือ เปิดใช้งานโหมดผู้มาเยือนและจำกัดการลงชื่อเข้าใช้โดเมนของคุณ
  • การจัดสอบ – Chromebook เป็นแพลตฟอร์มที่ปลอดภัยสำหรับการจัดสอบให้กับนักเรียน ในระหว่างการสอบ โดยสามารถปิดไม่ให้นักเรียนเข้าถึงเว็บ ที่จัดเก็บข้อมูลภายนอก ภาพหน้าจอ และความสามารถในการพิมพ์ได้  ผ่าน 1) โหมดคีออสก์: โรงเรียนตั้งค่า Chromebook ให้ทำงานเป็นคีออสก์แอปเดี่ยวที่เรียกใช้แอปการสอบ 2) โหมดล็อกขณะคุมสอบ: ครูตั้งค่าแบบทดสอบ Google ฟอร์มโดยใช้ฟีเจอร์โหมดล็อกขณะคุมสอบ
  • และนโยบายอีกกว่า 500 รายการ 
จารุณี สินชัยโรจน์กุล
เก๋ไก๋ไฮเทค ที่ปรึกษาการพัฒนาวิชาชีพครู Google Certified Innovator / Google Certified Trainer